ในยุคที่มีการแข่งขันสูงในภาคธุรกิจเองก็จะต้องปรับตัวให้ทันต่อการแข่งขันเพื่อที่จะสู้กับคู่แข่งได้อย่างเต็มที่อีกทั้งยังต้องปรับตัวกับเทคโนโลยีที่มาเร็วมาแรงและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องอยู่เรื่อยๆซึ่งในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในยุคปัจจุบันนี้ตั้งแต่เริ่มต้นก่อนร่างสร้างฐานไปจนถึงวันที่ ก้าวเข้าสู่คำว่าความสำเร็จได้ ตั้งแต่ การเริ่มต้นในสมัยอดีตถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความลับหน้าทางเทคโนโลยีที่ทำให้เราก้าวกระโดดในการทำธุรกิจได้มากยิ่งขึ้นดังนั้นวันนี้เรามาดูกันว่าหนทางสู่ความสำเร็จในการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคปัจจุบันนี้มีเรื่องใดบ้าง สิ่งที่สำคัญสำหรับการเริ่มต้นในการทำธุรกิจผู้ที่กำลังจะเริ่มต้องเข้าใจก่อนว่าเรื่องเงินทุนไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมดในการเริ่มต้นและการขับเคลื่อนธุรกิจเพราะในยุคปัจจุบันนี้เรามีเงินทุนเพียงแค่เล็กน้อยก็สามารถเริ่มต้นหยิบจับทำอะไรได้ทุกอย่างแล้วสิ่งที่สำคัญคือความมุ่งมั่นความฝันและเส้นทางที่ชัดเจนในการทำงานความฝันและความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมยกตัวอย่างเช่นในยุคปัจจุบันนี้ที่ใครต่อใครก็หันมาเปิดร้านหรือทำธุรกิจส่วนตัวโดยการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองแน่นอนว่าการลงทุนคือส่วนที่สำคัญและต้องใช้เงินจำนวนหนึ่งแต่ถ้าหากเจ้าของแบรนด์ ขาดซึ่งกำลังใจและความมุ่งมั่นในการทำงานก็คงไม่สามารถขับเคลื่อนธุรกิจโดยการใช้เทคโนโลยีหรือเครื่องมืออื่นๆจนนำพาตัวเองไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน สิ่งที่ต้องระวังสำหรับการทำธุรกิจมันก็คือเรื่องของการขยายสาขาแน่นอนว่าหลายคนจะเข้าใจว่าการเปิดสาขาเยอะก็ทำให้เราได้กำไรเยอะเหมือนกับการมีแฟนชายแต่ในการทำธุรกิจสมัยนี้บอกเลยว่ายิ่งมีสาขาเยอะโอกาสในการขาดทุนก็ยิ่งสูงและสิ่งที่สำคัญคือการลงทุนในหน้าร้านแต่ละสาขาก็ต้องใช้เงินทุนจำนวนเยอะถ้าหากบริหารจัดการไม่ดีธุรกิจก็ไปได้ไม่รอดนอกจากนี้แล้วการทำธุรกิจหรือการผลิตสินค้าให้ตรงใจกลุ่มลูกค้าถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ และเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าสินค้าที่เราขายไม่ได้มีเราเพียงแค่เจ้าเดียวแต่ยังมีคู่แข่งอีกมากมายที่พร้อมจะห้ามหั่นกันด้วยกลยุทธ์ต่างๆ ซึ่งถ้าหากเรา รังแต่จะเพิ่ม สินค้าให้ได้มากกว่าคู่แข่งหรือสร้างฐานลูกค้าโดยการลดแลกแจกแถมโดยไม่คิดถึงกำไรต้นทุนก็เตรียมตัวจบเกมตั้งแต่ยังไม่เริ่มได้เลย สินค้าเราต้องขายในระบบอีคอมเมิร์ซได้ซึ่งในยุคนี้เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโลกโซเชียลคือหน้าร้านที่ดีที่สุดดังนั้นการขยับขยายมาขายของออนไลน์ซึ่งทำให้การทำธุรกิจในระบบ E commerce ประสบความสำเร็จได้มากยิ่งขึ้นและแน่นอนว่าผลประกอบการในการทำธุรกิจผ่านระบบ Social Network หรือ E commerce ต่างๆทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าของเราได้อย่างง่ายดายสะดวกและรวดเร็วและการจ่ายเงินโดยการโอนหรือ internet banking ที่สะดวกสบายทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อและโอนเงินได้อย่างรวดเร็วกว่าการใช้เงินสดซื้อซะอีก การใช้เทคโนโลยีกระตุ้นยอดขาย แน่นอนว่าธุรกิจที่กำลังจะก้าวเข้าสู่คำว่าเติบโตการใช้เทคโนโลยีนั้นมีส่วนสำคัญมากสำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจพอแน่นอนว่าเราจำเป็นที่จะต้องรู้รายได้ตลอดเวลาการใช้เทคโนโลยีมาเป็นสิ่งที่ support ในการทำธุรกิจในทุกๆด้านจึงถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นประโยชน์ในการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก
มาถึงโค้งสุดท้ายกับตอนสุดท้ายของสุดยอดเทคโนโลยีทางด้านไอทีที่เราไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงซึ่งแน่นอนว่าจากที่เราพูดมาทั้งหมดตั้งแต่ตอนที่ 1 ถึงตอนที่ 3 เราจะพบว่ามีเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆมากมายทางด้านไอทีที่จะมาขับเคลื่อนและส่งผลให้ภาคธุรกิจภาคอุตสาหกรรมและการเงินรวมไปถึงอื่นๆอีกมากมายเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่องและมีความทันสมัยมากที่สุดอีกด้วยและในวันนี้กลับ 4 เทคโนโลยีสุดท้ายที่เราไม่ควรพลาดอีกเช่นกันมีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ Multi-Croud Strategy หลายคนคงจำได้ในภาคใดที่เมื่อก่อนเราจะพูดกันถึงเรื่อง Public Cloud และเปลี่ยนภาพมาเป็น Private Cloud จนกระทั่งการพัฒนามาสู่การเป็น Hybrid Cloud และในปีนี้ สิ่งสำคัญที่เราจะเริ่มพูดถึงก็คือ Multi-Croud ซึ่งแน่นอนว่าในต่างประเทศเขามีพูดถึงและใช้กันมาสักระยะหนึ่งแล้วแต่การที่เราใช้มัลติคราวในประเทศไทยในตอนนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงพึ่งเริ่มแต่แนวคิดของ การใช้ Mti-croud ก็ทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายขึ้นมากเลยทีเดียว Quantum Computing สำหรับยุคนี้เทคโนโลยีทางด้านไอทีต้องยกให้ควันตั้มคอมพิวติ้งที่มาพร้อมกับความทันสมัยทำให้กลายเป็นที่จับต้องได้มากกว่าในอดีตและสิ่งนี้จะเหนือกว่าคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันทั้งการออกภาษาสำหรับพัฒนาโปรแกรมบนควันตั้มคอมพิวเตอร์ของแต่ละค่ายรวมไปถึงการออกควรตั้งคอมพิวเตอร์ Simulator มาให้เราได้เริ่มเรียนรู้และใช้งานกันอย่างกว้างขวางได้มากยิ่งขึ้นนอกจากนี้แล้วระบบการประมวลผลที่สูงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำ factorization ก็มีการพัฒนาอย่างดีด้วยเช่นกัน Serverless Architectures สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนสายไอทีที่จะต้องจับตามองและเรียนรู้รวมไปถึงพัฒนาตัวเองให้ก้าวทันการพัฒนาของ serverless ด้วยเช่นกัน เพราะสิ่งที่สำคัญและเป็นประเด็นที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีตัวนี้มีแนวโน้มที่จะถูกนำไปใช้งานทางด้าน internet of Things มาขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความง่ายในการใช้ Deploy ซึ่งนอกจากความจำเป็นในการดูแลรักษาในระยะยาวแล้วยังประหยัดทรัพยากรทำให้สามารถนำไปใช้งานกับอุปกรณ์ได้ทุกขนาดทุกประเภทและนี้ถือเป็นนวัตกรรมที่ฝ่ายไอทีจะต้องศึกษารองลงมาจาก Visualization, crupd รวมไปถึง Container เลยล่ะ Virtual Reality, Augmented Reality, Mixed…
